31 มกราคม 2552

Seagull Restaurant... คนทุกข์มีอยู่ทั่วโลก



ผู้คนที่มีความทุกข์ มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก และที่นี่ก็เช่นกัน ร้านอาหารนกนางนวลเล็กๆในฟินแลนด์
ที่ที่คนทุกข์เดินทางข้ามโลกมารวมตัวกันอย่างเงียบๆด้วยความบังเอิญ ต่างเรื่องราว ต่างความหลัง
การจัดการ และอยู่กับความทุกข์นั้นมีหลากหลายวิธี และผู้คนในร้านนี้ใช้มิตรภาพ และความอบอุ่นของอาหารที่ทำด้วยความตั้งใจ เยียวยารักษาดูแลกันและกัน เราว่ามันเป็นหนังที่เหงาแต่น่ารักและอบอุ่นมากๆ

Kamome Shokudo หรือ Seagull Reataurant by Naoko Ogigami

27 มกราคม 2552

ใจดีกับตัวเองบ้าง

ในช่วงเวลาที่อ่อนแอและอ่อนไหว เราก็สามารถผ่านพ้นมันไป ด้วยกำลังใจ และการอยู่ด้วยกันตรงนี้ ของเพื่อนๆ และในครั้งนี้ก็เช่นกัน ในวันที่ปัญหาเดิมๆของเรากลับมาทำร้าย เพื่อน ก็ยังคงอยู่ตรงนี้ ยังคงเชื่อในตัวเรา ให้เราอบอุ่นหัวใจเสมอ ขอบคุณมากๆ นี่เป็นเรื่องที่เราคิดมาเสมอว่ามันเป็นความโชคดีของชีวิตเรา

เพื่อนคนหนึ่งของเราพูดว่า "ต้องใจดีกับตัวเองบ้าง"
ประโยคนี้มันช่วยเตือนใจเราได้มาก เรามักจะใจร้ายกับตัวเราเอง ทำร้ายตัวเราเอง ด้วยความคาดหวัง และการที่ไม่เคยพอใจอะไรเลยกับสิ่งที่มีอยู่ ไม่เคยจะมองถึงสิ่งดีที่เราทำได้ ปัญหาของเราข้อนี้มักจะย้อนกลับมาทำร้ายเราเสมอๆในยามที่จิตใจถูกสั่นคลอน

เราบอกว่า "เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดี เรายิ่งต้องไม่ทำให้ผิดหวัง"
เธอบอกว่า "เพราะเป็นเพื่อน จึงไม่คาดหวัง"

เพื่อนๆก็ยังคงเชื่อมั่นใจตัวเราเสมอ เมื่อทุกคนเชื่อมั่นในตัวเรา เราก็จะพยายามเชื่อมั่นในตัวเอง
เรากำลังพยายามอยู่ และหวังว่าเราจะได้เรียนรู้ และจัดการกับมันได้ดีขึ้น

ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกัน ทั้งในวันที่ยิ้ม และมีน้ำตา
เราจะพยายาม ใจดีกับตัวเอง

19 มกราคม 2552

Balloon... U and ME



เราผูกกันไว้ ด้วยใจ และเชือกเส้นบางๆ
ลอยเคว้ง ลอยคว้าง แต่ยังอยู่ข้างๆกัน

16 มกราคม 2552

My first piece in Illus technique

My imagination, my inspiration
are growing and growing.
I will plant them with love and color...



Ps. Thank you Nui for your kindly teaching. And I found it's a great moment for me.

13 มกราคม 2552

ออกเดินทางท่องเที่ยวกันเถอะ

กำลังอ่านหนังสือ "GM Cafe จิบกาแฟ สนทนาถึงชีวิต ตัวตน และสังคมของคนหนุ่มสาว" มีอยู่วงสนทนาหนึ่งที่กล่าวถึงการท่องเที่ยว การเดินทาง ซึ่งในวงสนทนานั้นคุณนิ้วกลม ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ

"การเดินทางกับการท่องเที่ยว จริงๆแล้วมันต่างกันตรงไหน ผมเขียนไว้ว่า
การเดินทางมันทำให้คนเราเติบโต ส่วนการท่องเที่ยวนั้น ทำให้เราเยาว์วัย คือผมรู้สึกว่า ถ้าเราไปเที่ยว เราจะได้พักผ่อน ผ่อนคลาย แล้วก็ทำให้เรายังเด็กอยู่ หมายถึงว่า เราได้ผ่่อนคลายชีวิต ส่วนการเดินทาง มันสมบุกสมบันมากกว่า มันก็เลยทำให้เราได้พัฒนาความคิดให้เติบโตขึ้น ทีนี้ทางที่ดี คนเราไม่ควรจะท่องเที่ยวอย่างเดียว ผมคิดว่าการท่องเที่ยวไม่ได้น่ารังเกียจ แต่ว่าการท่องเที่ยวอย่างเดียวนั้นน่าเสียดาย เพราะว่าคุณจะพลาดหลายอย่างที่มันไม่ใช่การท่องเที่ยวแต่มันคือการเดินทาง ฉะนั้น คนเรามันน่าจะทั้งเดินทางและก็ท่องเที่ยวไปด้วยกันครับ"

ระยะหลังๆมา เราก็มีทัศนคติ ความคิดและความชอบที่เปลี่ยนไป ต่อการท่องเที่ยวเดินทาง เช่นกัน
การเดินทางหลายๆครั้ง ก็มีค่าทางจิตใจมากกว่าการไปเที่ยว และระหว่างทางก็น่าตื่นใจไม่แพ้จุดหมายปลายทาง ที่บางที่ บางคนอาจเห็นว่าไม่เห็นมีอะไร แต่หลายครั้งเราก็กลับหลงรักความไม่มีอะไรของมัน

คิดแล้วก็อยากท่องเที่ยว อยากออกเดินทาง เก็บรักษาความเยาว์สดชื่นให้หัวใจ และก้าวเดินไปให้จิตใจได้เรียนรู้็และเติบโต

ปล. เห็นตอนนี้บางสถานที่ท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลง และบอบช้ำไปอย่างรวดเร็ว จากการแห่แหนกันเข้าไปของบรรดานักท่องเที่ยว กำลังคิดอยู่ ว่าจะทำยังไงดี ที่จะทำให้ที่ๆเราไปไม่กระทบกระเทือนไม่บอบช้ำ ใครมีข้อแนะนำอะไร ช่วยบอกด้วยนะคะ

8 มกราคม 2552

มีดอกไม้มาฝาก 2


Roses are red
Violets are blue
Here am I
But where are you?

ภาพนี้เป็นภาพดอกไม้ English Rose ที่วาดไว้ได้สักพักนึงแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสเอามาลงให้ใครๆเห็น เป็นภาพที่เราวาดจากแบบดอกไม้ ในหนังสือ The Painted Garden by Mary Woodin ภาพดอกไม้เนี่ย วาดไม่ยาก แต่ลงสียากสุดๆ จะทำยังไงไม่ใช้สีช้ำ ไม่หนักไป ไม่เบาไป ยาก แต่ก็ท้าทาย และสนุกมากในแต่ละครั้งที่ได้ทำ และทุกครั้ง เราก็ยังพบเสมอว่า เรามันเป็นคนใจร้อนจริงๆนะเนี่ย...


7 มกราคม 2552

คำตอบล่องลอยอยู่ในสายลม

How many roads must a man walk down
Before you call him a man
Yes, 'n' how many seas must a white dove sail
Before she sleeps in the sand?
Yes, 'n' how many times must the cannon balls fly
Before they're forever banned?
The answer, my friend, is blowin' in the wind,
The answer is blowin' in the wind.
How many times must a man look up
Before he can see the sky?
Yes, 'n' how many ears must one man have
Before he can hear people cry?
Yes, 'n' how many deaths will it take till he knows
That too many people have died?
The answer, my friend, is blowin' in the wind,
The answer is blowin' in the wind.
How many years can a mountain exist
Before it's washed to the sea?
Yes, 'n' how many years can some people exist
Before they're allowed to be free?
Yes, 'n' how many times can a man turn his head,
Pretending he just doesn't see?
The answer, my friend, is blowin' in the wind,
The answer is blowin' in the wind
***Blowin' in the Wind : Bob Dylan

คำตอบล่องลองอยู่ในสายลม...
เมื่ออ่านหนังสือเรื่อง "ผ้าปูโต๊ะกับลมหมอ การเดินทางธรรมดาในห้าทวีป" ของคุณ โตมร ศุขปรีชา (อีกแล้ว) จบ หลายบทหลายตอนในหนังสือ ได้ทิ้งคำถามตกค้างไว้ในหัวสมองเราหลายอย่าง และอยู่ๆก็คิดถึงเพลงเพลงนี้ขึ้นมา The answer, my friend, is blowin' in the wind, the answer is blowin' in the wind.

4 มกราคม 2552

ญี่ปุ่น จากสายตาไกจิน (คนนอก)


เริ่มต้นปีใหม่ ด้วยหนังสือดีดีเล่มนี้

เราชอบอ่านวรรณกรรมจากนักเขียนญี่ปุ่น เราชอบดูหนังญี่ปุ่น เราชอบฟังเพลงญี่ปุ่น เราชอบวัฒนธรรมที่แข็งแรงของญี่ปุ่น เราอยากไปเที่ยวญี่ปุ่น เราชอบอะไรต่างๆนานาจากญี่ปุ่น ทำให้เราอยากเข้าใจความเป็นญี่ปุ่น

หนังสือเล่มนี้ จะพาเราไปรู้จักญี่ปุ่น รู้จักข้างนอก (โอโมเตะ) รู้จักข้างใน(อุระ) ลองมองเข้าไปว่าทำไมอะไรๆ จากญี่ปุ่นถึงช่างน่าทึ่งไปเสียหมด

คุณโตมร เล่าเรื่องราวยากๆ ได้อย่างสนุกสนานน่าติดตาม ราวกับอ่านนิยาย (ที่กำลังตามหาอะไรบางอย่าง) ลึกลับซับซ้อน และระหว่างทาง ก็ทิ้งโน่นนี่ให้เราเก็บมาคิดได้ตลอดเวลา

ข้างนอกข้างในที่ทับซ้อนกันอยู่หลายต่อหลายชั้น ทำให้ประเทศนี้ งดงามและเจ็บปวดไปในเวลาเดียวกัน หลายอย่างทีเดียวที่ทำให้เรากลับมามองความเป็นข้างนอกข้างในของเราเอง ของสังคมของเราของประเทศของเรา ที่ที่เราอยู่ในเวลานี้ โอ้...มันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ และเราก็รู้สึกนะ ว่า เราอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ให้ที่ที่เราอยู่ มันดีขึ้น เราหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น