17 มีนาคม 2553

งานที่อยากทำ กับสิ่งที่เราเป็น

คำถามพื้นฐานที่ถูกถามจากใครต่อใครนับครั้งไม่ถ้วนที่ตอบยากที่สุดคำถามหนึ่งคือ "อยากทำงานอะไร? หรือ อยากจะเป็นอะไร?"

ฉันเองก็เป็นอีกคนที่มีปัญหากับการตอบคำถามนี้เสมอ และมักจะพยายามคิดอย่างมีความหวังว่าสักวันฉันจะตอบคำถามนี้ได้เสียที

การค้นหาตัวเองสำหรับบางคน อาจใช้เวลาทั้งชีวิต

วันนี้มีโอกาสได้นั่งฟังพี่คนหนึ่งเล่าถึงชีวิตของเขา พี่เขาบอกว่าตอนนี้อายุ 40 กว่าแล้ว ก็ยังค้นหาตัวเองอยู่เลย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความสุขกับชีวิตที่ผ่านมา แม้จะรู้สึกว่าสิ่งที่เลือกทำยังอาจจะไม่ใช่สิ่งที่"ใช่ที่สุด" แต่สิ่งที่เลือกทำก็ล้วน "มีความหมายต่อชีวิต" ซึ่งอย่างน้อยมันก็มีความหมายกับตัวเรา ใจเรา และทำให้เรารู้สึกสันติกับตัวเอง

"ทำในสิ่งที่มีความหมาย" คำพูดนี้ทำให้คำตอบอะไรหลายๆอย่างผุดขึ้นในใจของฉัน และทำให้ฉันยิ้มให้กับตัวเองและยิ้มให้กับสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่เลือกไม่ว่าจะในช่วงเวลาที่ผ่านมาหรือในตอนนี้ มันมีความหมายกับฉันจริงๆ แม้คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจการเลือกของฉัน แต่แค่ตัวเราเข้าใจตัวเรา ตอบใจของเราได้ นั่นก็พอแล้ว

ขอบคุณค่ะสำหรับคำพูดสร้างแรงบันดาลใจของพี่
ฉันก็จะค้นหาไปเรื่อยๆ พร้อมกับทำในสิ่งที่เลือกไปเรื่อยๆเช่นกัน

15 มีนาคม 2553

การสื่อสาร กับ ความสัมพันธ์

หลายครั้งที่เราพบว่า ความสัมพันธ์มีปัญหา อันเนื่องมาจากเราไม่ยอมสื่อสารกัน อาจจะเนื่องด้วยเหตุปัจจัยต่างๆนานาจนถึงอคติความดื้อดึงส่วนบุคคล ที่ใช้วิธีการจัดการด้วยการเงียบเฉย หรือคิดว่าไม่พูดดีกว่า

เมื่อไม่สื่อสาร ก็ไม่เข้าใจกัน และหลอกหลอนตัวเองไปกับ "การคิดจินตนาการไปเอง"

เราเองก็มีปัญหาเรื่องการสื่อสารเช่นกัน เมื่อสำรวจตนเอง เราพบว่า เรากลัวที่จะสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาตามที่ใจเราคิด เพราะเรากลัวว่า อีกฝ่ายจะยอมรับไม่ได้ในความเห็นที่ต่างออกไป และอาจจะกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ ซึ่งเราอยากจะถนอมรักษาไว้อย่างดีที่สุด แต่การที่เราทำแบบนี้ ก็อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเราเห็นด้วยกับสิ่งนั้น และมันก็ทำให้เราไม่สบายใจ ที่ไม่สามารถแสดงจุดยืนของตัวเองออกไปได้ การหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความจริงอาจทำให้เราต่างเข้าใจความเป็นตัวตนของกันและกันน้อยลงก็ได้ ซึ่งสิ่งนี้อาจจะเป็นบททดสอบความสัมพันธ์ ว่าในยามที่เราเห็นต่างกัน มิตรสัมพันธ์ของเรายังคงแข็งแรงอยู่หรือไม่ และหากไม่เดินหน้าทดสอบ มันก็จะไม่มีวันล่วงรู้

เห็นที คงจะถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องพาตัวเองให้หลุดจากการสื่อสารแบบตามใจคนอื่นมากกว่าตามใจเราคิดเสียที แม้ว่าไม่มีใครการันตีอะไรได้ว่า หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของเราจะยังแข็งแรงอยู่อีกหรือไม่ แต่มันก็จะทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหนก็ตาม

4 มีนาคม 2553

ของฝากจากทะเล

I'm lost in paradise @ Mu Koh Surin


ทะเลสวยขาดใจ ขอโทษด้วย หากเก็บความสวยลงกระดาษไว้ได้ไม่หมด


ต้นจิกทะเล ขึ้นเรียงรายริมชายหาดไม้งาม เหมือนเป็นต้นไม้คู่หาดนี้เลยก็ว่าได้




นี่คือ ใบต้นจิกทะเล สีเหลืองจัดจ้า ปลิวหล่นลง ตัดกับท้องน้ำเขียวจี๋



และนี่คือ ดอกจิกทะเล ร่วงหล่นเกลื่อนกลาดเต็มหาด
ขั้วของมันแสนเปราะบาง จับเบาๆ กลีบดอกและเกสรก็หลุดจากขั้วไปเสียง่ายๆ



วิวหน้าเต๊นท์ ที่อ่าวไม้งาม นั่งมองได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ
น้ำทะเล มัน ฟ้า เขียว ระยิบระยับไปหมด
สวยจนเรียกไม่ถูกว่า มันสีเขียวอะไร?


หวังว่าคงจะชอบ ของฝากจากทะเล :)


ไปทะเลมา

ไปทะเลมา

นั่งมองทะเลใส น้ำสีเขียวสวยสุดใจ ลืมหมดสิ้นสิ่งใดที่ทำให้ใจกังวล
แม้จะแสนสุขใจ แต่บางครั้งมันก็เศร้าอย่างไร้เหตุผล เมื่อมองไปยังอีกฟากของขอบฟ้า
มองเส้นแบ่งฟ้ากับน้ำ สิ่งที่รู้สึกคือ "ความอ้างว้าง" มันช่างสวยงาม แต่ก็แสนเศร้า


น้ำทะเลขึ้นลงตามดวงจันทร์ ฉันนั่งมองความธรรมดาสามัญของโลกใบนี้ น้ำขึ้นเต็มฝั่งเขียวระยับรับแดดจ้า ให้ฉันลอยตัวแหวกว่าย แต่สักพักน้ำลง เหือดแห้ง เผยให้เห็นร่องรอยสิ่งที่อยู่ภายใต้น้ำปริ่มอิ่มเต็ม น้ำพัดพาไป ทำเอาใจหาย แต่ไม่นานลมก็จะพัดกลับเข้ามา หอบเอาน้ำทะเลกลับมาอีกครั้ง วนเวียนอยู่อย่างนี้เรื่อยไป

จากมา วันหนึ่งก็ต้องกลับไป ไม่ช้าก็เร็ว