24 ตุลาคม 2553

Drunk !

Kazami : "I feel like I'm drunk even though I haven't had any alchohol. Doesn't my voice sound strange to you?"

Sui : "You're drunk on your memories."

N.P. , Banana Yoshimoto

18 ตุลาคม 2553

New Start !!!

วันนี้ เริ่มงานใหม่ เป็นวันแรก
ยังต้องปรับตัว ปรับใจ อีกมาก
ต่อแต่นี้ต้องตื่นเช้า และหัดเขียนงานตอนกลางคืน
ต้องแบ่งเวลา ต้องมีวินัย และทำให้เรื่องเรียนสำเร็จไปด้วยให้ได้

งานที่ทำ เป็นงานที่เลือก ใช่ไม่ใช่ เราก็ไม่รู้
แต่ที่รู้ คือจะทำสิ่งที่เลือกให้ดีที่สุด
และสัญญากับตัวเองว่า จะยังคงทำ "สิ่งที่ชอบ" ไปพร้อมๆกับ "สิ่งที่เลือก"
จะชอบโน่น ชอบนี่ และจะทำไปเรื่อยๆ

บ่นนิดๆหน่อยๆ กับชีวิตประจำวันที่ต้องเปลี่ยน
่คงคิดถึง เสียงนกร้องยามสายข้างหน้าต่างที่บ้านน่าดู

12 ตุลาคม 2553

คิดเล่นๆ ถึงกล่องจดหมาย

คิดเล่นๆ ถึงยุคสมัยที่เราใช้ facebook กันอย่างหนักหน่วง
หากอยู่ๆวันหนึ่งเราตายไป หรือคนรอบข้างเราจากไป
facebook ของเรา หรือของเขาเหล่านั้น
อาจจะเป็นเหมือนกล่องจดหมาย
ที่ให้ใครๆฝากข้อความถึงเรา หรือเราฝากข้อความถึงเขา ในวันที่เราหรือเขาไม่อยู่แล้ว
แม้เรา หรือเขา จะได้อ่านหรือไม่ก็ตาม
และอาจจะเป็นอีกที่หนึ่ง ที่ทำให้เห็นร่องรอยของชีวิตที่ผ่านมา

ดูเศร้าๆยังไงไม่รู้เนอะ ไม่รู้สิ คิดเล่นๆเท่านั้น

4 ตุลาคม 2553

9 end 2 outs เพื่อน กับ ความรัก

เว้นให้ตัวเองพัก จริงจังสัก 3 วัน เลยนอนดูซีรี่ทั้งวี่ทั้งวันอย่างที่ใจอยากมานาน เพื่อนเราแนะนำซีรี่หลายเรื่อง แต่ท้ายสุดก็เลือกดูเรื่อง 9 end 2 outs ก่อนเรื่องอื่นๆ เพราะเป็นเรื่อง ความรักระหว่างเพื่อนที่สนิทกันมากๆ พล็อตแบบนี้ดูกี่ทีก็โดน :) ตามแบบฉบับประโยคสุดคลาสสิคจาก When Harry met Sally ว่า Men and Women Can Never Be Friends.


เมื่อรู้สึก "รัก" เรายังจะเป็นเพื่อนกันได้หรือเปล่า
แล้วมีทางออกใหม่ๆบ้างไหมสำหรับความสัมพันธ์แบบนี้
แค่คิดก็รู้ว่ามันยากมากๆๆๆ

9 end 2 outs เปรียบเปรย timingของความรัก ความสัมพันธ์ในแต่ละช่วงเวลา กับเกมส์การเล่นเบสบอล

ตัวละคร เพื่อนรัก ทั้งฝ่ายชายฝ่ายหญิง ทำให้เรารู้สึกได้จริงๆว่า สิ่งที่ยากเย็นเหนือสิ่งอื่นใด คือการถนอมรักษาสายสัมพันธ์มิตรภาพ 30 ปีที่รู้จักกันมา ในยามที่ความรู้สึกในใจเปลี่ยนไปมากกว่าเพื่อน
หากโชคดีที่รู้สึกเหมือนกัน ก็ต้องก้าวข้ามความกลัว เพราะดูเหมือนการเป็นเพื่อนจะยั่งยืนยาวนานกว่าการเป็นคนรัก
หากโชคไม่ดี ที่รู้สึกไม่เท่ากัน ก็ไม่รู้ว่าจะเก็บงำ หรือทำอย่างไรที่จะรักษาความเป็นเพื่อนไว้ให้นานที่สุด
และมันยากที่จะปฏิเสธใจของเรา
เมื่อรู้สึกไปแล้ว ก็ไม่มีทางเหมือนเดิมอีกต่อไป

ฉากที่เราชอบมากของซีรี่เรื่องนี้ คือ ฉากที่ นางเอกกับพระเอก นั่งคุยกัน กินเบียร์กัน ในพื้นที่ส่้วนตัวของทั้งสองคน (ซึ่งมีอยู่เต็มไปหมดในเรื่องนี้) สำหรับเราเวลาเหล่านั้นช่างเป็นเวลาที่ดี ปลอดภัย สบายใจสุดๆ ไม่ต้องมีเกราะกำแพงอะไรเลย และอบอุ่นใจที่มีคนที่เข้าใจเราดีคอยอยู่ข้างๆเสมอ

ดูแล้วก็อยากจะมีช่วงเวลาอบอุ่นปลอดภัยอย่างฮงนานนี นางเอกของเรื่องบ้าง :P



ไม่ใช่แค่เรื่อง ความรัก ของสองคนนี้เท่านั้นนะที่ทำให้เราชอบซีรี่เรื่องนี้ แต่ยังมีเรื่องความสัมพันธ์ของเพื่อนในกลุ่มของนางเอกพระเอก (2คนนี้อยู่กลุ่มเดียวกัน) ที่ผูกพัน และยังคบกันมายาวนานเป็นสิบปี ผ่านความทุกข์ ความสุข มาด้วยกันมากมาย แม้ว่าแต่ละคนจะออกเดินทางตามเส้นทางของตัวเอง แต่ก็ยังคงมีอะไรบางอย่างยึดโยงกันไว้อย่างแนบแน่น
และต่างสนับสนุน ความฝันของกันและกัน ทั้งยามสุขยามเศร้าในการเดินทางค้นหาความหมายของชีวิต
ดูแล้วก็ได้แรงบันดาลใจดีๆกลับมาด้วย
บทละครทำให้เรารักตัวละครทุกตัว และเฝ้าเอาใจช่วยให้ตัวละครเหล่านั้นพบความสุข

มีเรื่องบังเอิญที่โผล่มาในหนังแล้วเรากรี้ดสุดๆ คือ มีบทอยู่ตอนหนึ่งที่ตัวละครพูดถึงหนังเรื่อง Love Letter ของชุนจิ อิวาอิ และกล่าวถึงฉากที่นางเอกตะโกนถามภูเขา ซึ่งเป็นตอนที่เราชอบมากที่สุดในหนังเรื่องนี้ (ตอนดูฉากนี้น้ำตาไหลทุกที) ยังไม่หมด ยังมีอยู่อีกฉากนึงที่พูดถึงหนังสือเรื่อง Music of Chance ของนักเขียนที่เราชอบอย่าง Paul Auster ด้วย (เล่มนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย) ดูไปแอบตื่นเต้นไป ที่มีอะไรที่เราชอบโผล่มาเยอะแยะ


ฉันดูจบรวด 16 ตอน ภายใน 3 วัน ถึงขั้นเก็บเอาไปฝันต่อ


เฮ้ออ... ดูแล้วก็คิดถึงเพื่อนจังเลย :)

2 ตุลาคม 2553

เหนือการควบคุม

ฝนตก ฟ้าร้อง
ฉันควบคุมอะไรไม่ได้
ทั้งจิตใจตัวเอง และอย่างอื่นอีกมากมาย
หงุดหงิด งุ่นง่าน โมโห
ทั้งตัวเอง และคนอื่นอีกมากมาย

มีสิ่งที่ต้องทำและอยากทำรออยู่เยอะแยะ
แต่ฉันทำอะไรต่อไม่ได้เลย

ได้แต่นั่งเฉยๆ ถอดถอยตัวเองออกจากโลกปัจจุบัน
รำพึงรำพัน อย่างโดดเดี่ยว กับวันที่เหนือการควบคุม