18 ตุลาคม 2552

รอ วันดีๆ

ไม่ได้เจอเธอมาตั้งนาน
สำหรับฉัน มันคงนาน เพราะฉันนั้นตั้งตารอ
ดีใจ ที่ได้เจอ แม้ว่าเราจะไม่ได้คุยกันในวันนั้น
ท่ามกลางผู้คนมากมาย เราได้แต่สบตากัน และเพียงส่งรอยยิ้ม
เมื่อหมดวัน ฉันต้องจากไป
ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ จะได้พบกันใหม่อีกครั้ง

มีเรื่องตั้งอีกมากมายอยากจะเล่าให้เธอฟัง
มีเรื่องตั้งอีกมากมายอยากพูดคุย แค่เธอกับฉัน
หวังว่าซักวัน หากได้พบกัน
คงเป็นวันที่เราได้พูดกัน
คงเป็นวันดีๆของเรา

เหงาเล็กๆเมื่อหมดวัน ใจหายเล็กๆเมื่อจากกัน
ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นเหมือนกันบ้างไหม
หรืออาจจะมีเพียงฉัน ที่เพ้อ ที่ฝัน คิดมากไป

มีเรื่องตั้งอีกมากมายอยากจะเล่าให้เธอฟัง
มีเรื่องตั้งอีกมากมายอยากพูดคุย แค่เธอกับฉัน
หวังว่าซักวัน หากได้พบกัน
คงเป็นวันที่เราได้พูดกัน
คงเป็นวันดีๆของเรา

**********************


ถ้อยคำเหล่านี้มีท่วงทำนองด้วยนะ แต่อย่าให้ร้องให้ฟังเลย อาย...
เคยเขียนไว้นานแล้ว ในวันที่มีความรู้สึกว่า อยากเจอคนที่เรารอคอยจะเจอ แต่เมื่อได้เจอกัน ก็มีเรื่องโน่นนี่นั่นมากมาย วุ่นวาย จนไม่ได้คุยกันให้สมกับที่รอคอย เสียดายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเจอกันอีกทีเมื่อไหร่ แต่ลึกๆในใจทำไมมั่นใจไม่รู้ ว่าจะต้องได้เจอกันอีก

8 ตุลาคม 2552

นิยายของคุณดวงตะวัน


จุดเริ่มต้นของการอ่านของเราในวัยเด็ก เริ่มต้นมาจากนวนิยายรักที่เรียงรายอยู่ในตู้หนังสือของพี่สาว ทั้งนิยายของ โสภาค สุวรรณ, ทมยันตี, กิ่งฉัตร, แก้วเก้า, ปิยะพร ศักดิ์เกษม, โสภี พรรณราย, ประภัสสร เสวิกุล, โบตั๋น และนักเขียนท่านอื่นๆอีกมากมาย อ่านมันจนหมดตู้ของพี่สาว นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันสนใจและหลงใหลโลกของการอ่านที่พาเราไปเรียนรู้้นอกเหนือจากสิ่งที่เราเคยรู้ เมื่ออ่านนิยายเหล่านี้มาจนถึงช่วงอายุหนึ่ง อาจเป็นได้ว่ารู้สึกอิ่มตัว และอยากแสวงหาเรื่องราวรูปแบบอื่นๆที่ยังไม่เคยได้สัมผัส จึงทำให้เราลองค่อยๆเปลี่ยนแนวหนังสือที่อ่านไปทีละเล็กทีละน้อยตามความเชื่อมโยงในชีวิตหรือความสนใจใคร่รู้ในช่วงชีวิตตอนนั้น ทำให้ร้างลาการอ่านนิยายรักไปนานทีเดียว และช่วงหนึ่งที่ฉันได้กลับมาอ่านมันใหม่อีกครั้ง กับงานเขียนของคุณดวงตะวัน เรื่อง รุ้งจันทร์ตะวันดาว ที่จะต้องอ่านประกอบการเรียน ทำให้ฉันกลายเป็นแฟนนวนิยายของคุณดวงตะวันอย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นิยายในชุดเมืองสมมติ ธิโมส์ ซึ่ง เริ่มต้นที่เรื่อง รุ้งจันทร์ตะวันดาว ,รักที่ริมทะเลเมฆ, ดอกไม้และสายลม, ปราสาททรายในสายฝน, ผีเสื้อลายตะวัน, บัลลังก์บุหลัน, ณ ที่ดาวพราวพร่างรัก, เอลันตรา และคิดว่าคงยังจะมีผลงานนวนิยายชุดเมืองสมมตินี้ออกมาอีกเรื่อยๆ

สิ่งที่ฉันชอบในนวนิยายของคุณดวงตะวันคือ นอกจากที่มันจะสนุกแล้ว มันยังมีประเด็น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นทางสังคม วัฒนธรรม การเมือง ที่บางครั้งมันช่างคู่ขนานไปกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นจริงสดๆร้อนๆ ราวกับกำลังสะท้อน ล้อเลียน เสียดสี ให้เราคิดตามไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยผ่านสิ่งที่เสพง่ายของเนื้อหาในนิยาย และที่ฉันชอบเป็นพิเศษในนวนิยายเมืองสมมติธิโมส์คือ ธิโมส์ของคุณดวงตะวันนั้น ทำให้ฉันนึกภาพประเทศๆหนึ่ง ที่มีประวัติศาสตร์ ภาษา วัฒนธรรม อารยธรรม ระบบเศรษฐกิจ ของตนเองอย่างจริงจัง เป็นตุเป็นตะ ซึ่งคุณดวงตะวันสร้างมันขึ้นมาใหม่ทั้งหมดได้อย่างน่าสนใจ และผูกโยงเรื่องราวในแต่ละเล่มได้เข้มข้นสนุกสนาน ทำให้ฉันจมดิ่งกับการอ่านจนลืมเวลาไปซะทุกครั้ง และพระเอกแต่ละคนของคุณดวงตะวันก็แทบจะรวมคุณสมบัติของผู้ชายในฝันของผู้หญิงเอาไว้แทบทั้งหมด ทำให้คนอ่าน (อย่างฉัน) ยอมหลุดออกจากโลกของความเป็นจริงด้วยความยินดี :)

ตอนนี้เพิ่งอ่าน ณ ที่ดาวพราวพร่างรักจบ และกำลังอยากอ่านประวัติศาสตร์ของธิโมส์และตัวละครที่ถูกทิ้งค้างให้สงสัยต่อ ใน เอลันตรา และจะรอคอยติดตามนวนิยายในชุดเมืองสมมตินี้ต่อไปค่ะ

ปล. ขอขอบคุณ นวนิยายในชุดนี้ ที่ช่วยพาหลุดหลีกหนีไปจากภาวะอาการจิตตก คุณช่วยฉันมาหลายครั้งแล้ว รวมทั้งครั้งนี้ด้วย :)

6 ตุลาคม 2552

คาถาปลอบโยนความอ่อนแอ

ขอยกตัวหนังสือของ อ.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล มาทั้งหน้า
ขอพึ่งเป็นคาถาท่องจำ ย้ำเตือนพร่ำสอนตนเอง ในวันที่จิตใจอ่อนแอ อ่อนล้า เพราะความพลัดพราก

จากหนังสือบุตรธิดาแห่งดวงดาว -- เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
ทะเลในสายฝน

ในห้วงนึก เธอปรารถนาเป็นหนึ่งเดียว และการแยกไปของใครคนนั้นทิ้งเธอไว้ไม่ครบถ้วน
แต่การจากไปของคนที่เธอรัก ไม่จำเป็นต้องหมายถึงการจากไปของความรัก
เช่นเดียวกับละอองเมฆที่เดินทางออกจากท้องทะเล มันเป็นเพียงห้วงยามแห่งการเปลี่ยนแปลง
ถ้าในดวงจิตของเธอมีความรัก ความรักจะไม่มีวันหายไปไหน
เพียงแต่บางครั้ง เธอต้องอยู่กับความรักโดยลำพัง
ผ่านแดดเผาลมผ่าน เพื่อกลายเป็นสายฝนฉ่ำสำหรับใครอีกคน

ทะเลส่งเมฆให้ฟากฟ้า
ฟ้ามอบเมฆให้แผ่นดิน
แผ่นดินพาน้ำเมฆกลับทะเล
แล้วผู้ใดเล่าอาจเอ่ยว่านั่นคือการสูญเสียเลวทราม

ตลอดช่วงชีวิตของเราท่าน มีใครบ้างที่ไม่เคยพลัดพราก มีใครบ้างที่ไม่เคยกล่าวคำอำลา
ทว่ามีใครบ้างกี่คนที่จะรู้ว่าการพลัดพรากไม่มีจริง
ใช่หรือไม่ว่า เธอเลือกรู้สึก "พลัดพราก" กับบางคนที่ตัวเองอยากล่่ามร้อย
แต่ชาเฉยกับอีกหลายคนที่ผ่านพบ
ใช่หรือไม่ว่า การพลัดพรากเกิดขึ้น เพราะเธอไม่เคยอนุญาติให้ใครเข้ามาในใจเธอ
มีแต่ตัวเธอที่เฝ้าดูระยะใกล้ไกลของผู้อื่น

ในเมื่อเธอไม่เคยให้ใครเข้ามา
ความจริงย่ิอมไม่มีใครจากไป
เธอเพียงแต่คิดว่าผู้อื่นทิ้งเธอไป
ใจใดที่หวังจองจำใจอื่น...
ย่อมต้องถูกล่ามร้อยด้วยโซ่ตรวนเดียวกัน

ตรงกันข้าม
หากในใจเธอมีผู้อื่น มิว่าผู้ใดก็ไม่อาจจากไป
ทะเลไม่เคยตามหาเมฆฝนฉันใด
เธอไม่ต้องตามหาความรักฉันนั้น...
เธอคือความรัก และ ความรักคือเธอ

2 ตุลาคม 2552

หากฉันทำให้เธอผิดหวัง

หากฉันทำให้เธอผิดหวัง เธอจะเกลียดฉันไหม
หากฉันทำให้เธอผิดหวัง เธอจะไปจากฉันไหม
หากฉันทำให้เธอผิดหวัง โปรดให้โอกาสฉันอีกครั้งจะได้ไหม
ฉันเองก็เสียใจ เจ็บปวดใจ
ผิดหวังกับตนเองเช่นกันที่ทำให้เธอผิดหวัง
ผิดหวังกับตนเองเช่นกันที่ทำไม่ได้
แต่ฉันก็ยังอยากจะลองพยายามอีกสักครั้ง
จะขอมากไปไหม
หากจะให้เธอวางใจฉันเหมือนเดิม เชื่อมั่นฉันเหมือนเดิม
จะขอมากเกินไปไหม...