19 กุมภาพันธ์ 2552

หนี...มาตัดอ้อย (กันดีกว่า)

หลังๆ หนังที่หยิบมาดู จะเป็นหนังญี่ปุ่นแนวประมาณว่า หลบหนีจากความทุกข์ จากเรื่องร้ายๆ จากปมในใจ มายังที่แห่งใหม่ ให้ผู้คนแปลกหน้าที่ได้พบ ให้สภาวะแวดล้อมใหม่ๆ ได้สั่งสอน หรือทำให้เข้าใจ ตั้งหลักพักใจ เพื่อกลับไปเผชิญหน้าโลกใบเก่าได้ดีกว่าเดิม ไม่ได้ตั้งใจจะเลือกดูหนังแนวนี้หรอกนะ เพียงแต่หน้าหนังมันพาไปทุกทีเลย และหนังญี่ปุ่นแนวนี้มักจะมีรูปแบบความสัมพันธ์ของตัวละครที่ประหลาดๆ แต่พอมาผสมกัันมันก็อบอุ่นน่ารักดี ผู้คนดูมีวิธีจัดการกับความทุกข์ ความโศกเศร้าต่างๆกันออกไป อย่างในเรื่องนี้ Necessity of deep breathing ต่างคนต่างมา เพื่อ "ตัดอ้อย" ซึ่งแน่ล่ะว่าตัวละครแต่ละตัว ไม่ได้มาเพราะอยากตัดอ้อยหรอก แต่มาที่ไร่อ้อยแห่งนี้ เพราะต่างกำลังหนีอะไรบางอย่างต่างหาก การตัดอ้อยมากมายที่ต้องทำให้เสร็จภายในกำหนด บวกกับเรื่องราวโน่นนี่ที่ค่อยๆเกิดขึ้น ทำให้ตัวละครตั้งใจที่จะตัดอ้อย และพยายามอย่างสุดกำลังที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จให้ได้ สำหรับเรา การได้ทำอะไรบางอย่างอย่างมีสติ มีสมาธิ จดจ่อ และมีความตั้งใจ เป็นการทำให้ตัวเองรู้สึกดีได้โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเป็นสิ่งเล็กน้อยแค่ไหน สูดหายใจเข้า และสูดหายใจออก และทำซะกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า...

The Necessity of Deep Breathing
Movie by Tetsuo Shinohara

18 กุมภาพันธ์ 2552

Love is a kind of art...High Art

Love is a kind of art.
You are my high art,
in the mood of love,
very complicated and very intense...

High Art : Movie by Lisa Cholodenko
PS. หยิบหนังเรื่องนี้ขึ้นมาดู เพราะมีคนแนะนำให้ฟัง OST ซึ่งOST ของหนังเรื่องนี้ หลอนดีจริงๆ เหมือนล่องลอยอยู่ในห้องที่มีแสงไฟสีแดงวูบวาบตลอดเวลา (เราฟัง OST ก่อนได้ดูหนังน่ะ) แต่sound ก็เข้ากับหนังมากๆแม้ว่าสีของหนังจะหม่น ไม่ได้ฉูดฉาดอย่างที่เราจินตนาการจากเพลง แต่ทั้งหนังทั้งเพลงก็emotional มากๆเลยล่ะ
ลองดู ลองดู

13 กุมภาพันธ์ 2552

snowflake (my second lesson)


"เพราะไม่เคยได้พบกัน
เธอจึงเป็นเพียงจินตนาการ
เยือกเย็น บางเบา งดงาม
เธอเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่า?"

12 กุมภาพันธ์ 2552

หาก บังเอิญ...

คิดว่าอย่างไร กับความบังเอิญ?
การที่เราได้พบใครบางคนโดยมิได้นัดหมาย หลายต่อหลายครั้ง
เป็นเรื่องพิเศษ หรือนี่เป็นสิ่งธรรมดาสามัญ
เราอาจเคยเดินผ่าน พบเจอใครบางคนซ้ำๆ ที่เราไม่รู้จักหลายครั้งหลายคราว
เพราะว่าไม่รู้จักกัน เลยไม่ได้นึกถึง ไม่รู้ถึงการมีอยู่ ไม่รู้ว่าความบังเอิญนั้นเกิดขึ้น
แต่เพราะว่ารู้จักกัน มันเลยมีความหมายมากขึ้น ความบังเอิญจึงเกิดขึ้น อย่างนั้นหรือเปล่า
แล้วทำไมต้องเป็นคนนี้ หลายๆครั้ง แล้วทำไมคนนั้นถึงไม่เคยเจอะเจอ
มันเกิดขึ้นง่ายดาย หรือยากเย็น

ความบังเอิญ เป็นแค่ความน่าจะเป็น ที่เกิดขึ้นได้
หรือ ความบังเอิญ เชื่อมโยงเกี่ยวกับโชคชะตา และช่วงเวลา
พิเศษ หรือ แสนธรรมดา

ไม่รู้เหมือนกัน...
เรายังคงชอบความบังเอิญอยู่เสมอ
มันทำให้กราฟชีวิตในบางวันกระตุก ขึ้นบ้าง ลงบ้าง มากบ้าง น้อยบ้าง
จากเรื่องราวที่เราคิดว่า ช่างบังเอิญเสียจริง
มันเป็นความตื่นเต้นอย่างหนึ่ง
แม้ว่าบางครั้งจะเป็นแค่ความบังเอิญที่ผ่านมา แล้วก็แค่ผ่านไป... ก็ตาม

10 กุมภาพันธ์ 2552

เด็กน้อย เบ่งบาน



ดวงตากลมโตใสแจ๋ว
เบิกกว้าง พร้อมรอยยิ้ม
ข้างในตา เต็มไปด้วยประกาย
รับรู้ได้ ว่ากำลังตื่นเต้นดีใจ
เพียงแค่ได้เห็น "ทิงกะเบล" ปลิวมา
เด็กน้อย ช่างสดใส
กินอิ่ม นอนหลับ เล่นสนุก
ชีวิตช่างเบิกบาน

ดวงตาแบบนั้น ของเรา
หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

ปล. เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูป ประกายตาของน้องฟ้ามาให้ดู เห็นแล้ว ยิ้มเลยล่ะ
และทิงกะเบลของน้องฟ้า ก็คือไอ้เกสรดอกไม้อย่างในรูปนี่แหละ
ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม

8 กุมภาพันธ์ 2552

ร้องไห้ กับเรื่องเดิมๆ ทุกที

พยายามจะอยู่คนเดียว พยายามไม่สนใจ
พยายามไม่เป็นอะไร ทำตัวเองให้แข็งแรง
แต่ความรู้สึก...ก็ยัง ยังเหมือนเดิม
ต่อให้ทุกอย่าง ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป...

ทำไมต้องเสียน้ำตา อย่างง่ายดายให้กับเรื่องเดิมๆ
รู้สึก...ไม่เข้าใจตัวเอง...ซักที...
บางทีไม่รู้ทำไม ต้องเป็นคนที่อ่อนไหวทุกที
ร้องไห้....กับเรื่องเดิมๆ อย่างนี้

พยายามดูแลตัวเอง พยายามหลุดพ้นไป
พยายามจะทำยังไง ใจมันยังไม่แข็งพอ
กับความรู้สึก...ที่ยัง ยังเหมือนเดิม
ต่อให้ทุกอย่าง ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป....

ทำไมต้องเสียน้ำตา อย่างง่ายดายให้กับเรื่องเดิมๆ
รู้สึก...ไม่เข้าใจตัวเอง...ซักที...
บางทีไม่รู้ทำไม ต้องเป็นคนที่อ่อนไหวทุกที
ร้องไห้....กับเรื่องเดิมๆ อย่างนี้

ร้องไห้ง่ายๆกับเรื่องเดิมๆ
***ปาล์มมี

6 กุมภาพันธ์ 2552

ช่างมันเถอะ ความคิด

ฉันเหนื่อย
บางอย่างก็ ช่างมันเหอะ
อย่าไปเร่งรัดอะไรตัวเองมากมายนักเลย
ยังไม่ได้ ก็คือยังไม่ได้
ยอมรับมัน และก็ทำต่อไป
เหนื่อยใจ ที่ต้องแบกมันไว้ตลอดเวลา
ปล่อยๆ มันไปบ้าง วางๆมันลงบ้าง
พักใจ พักสมอง พักต่อมไม่พอใจ
ช่างมัน ฉันจะไม่สนใจมันแล้ว

ทั้งหมดนี้เป็นการตะโกนบอกตัวเอง
มันก้องสะท้อนไปมาอยู่ในใจ
กลัวแสนกลัว ว่าพอเสียงสะท้อนเงียบไป
มันจะกลับมาจู่โจมใจเราอีกครั้ง

4 กุมภาพันธ์ 2552

คิดอะไรไม่ออก

คิดอะไรไม่ออก
สมองตีบตัน
คิดอะไรไม่ออก
เรื่องรอบๆตัวฉัน
คิดอะไรไม่ออก
ทุกอย่างปนเปกัน
ผ่านมา แล้ว ผ่านไป
คิดแล้ว เจ็บปวด จมหาย
คิดแล้ว ไม่นิ่ง ทุรนทุราย
หวังว่าพรุ่งนี้คงจะหาย
นิ่งลงได้ทั้งกายและใจ